เรียกว่าเป็นหนึ่งในหนังเสียดสีสังคมที่สื่อสารค่อนข้างตรงไปตรงมา กับหนังเรื่อง Don’t Look Up ที่ดึงนักแสดงมากฝีมือหลายคนมารวมกันในหนังเรื่องนี้ รีวิวหนัง นักแสดงนำก็เป็นคนที่พวกเราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี บวกกับเนื้อเรื่องเข้มข้นที่มีจุดหักมุมอยู่ตลอดเวลา เป็นความพยายามช่วยโลกที่เราต้องร่วมลุ้นไปด้วยทุกวินาที ขณะเดียวกันก็มองเห็นความเป็นจริงว่า สังคมที่เราอยู่ในปัจจุบันมันก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน
Don’t Look Up เรื่องของนักวิจัยที่พบวิกฤติครั้งใหญ่
Don’t Look Up ว่าด้วยเรื่องของนักวิจัยที่พบวิกฤติครั้งใหญ่ พวกเขาคำนวณได้ว่าจะมีดาวหางพุ่งเข้าชนโลกในอีกไม่ช้า และอาจจะทำให้ทุกชีวิตบนโลกต้องสูญสลายไปในชั่วพริบตา ข้อดีก็คือพวกเขามีความสำคัญและมีเส้นสายมากพอที่จะเข้าพบคนระดับประเทศได้ สามารถเข้าถึงสื่อกลางที่จะกระจายข้อมูลไปให้คนทั่วไปได้อย่างรวดเร็ว แต่เรื่องราวที่พวกเขากำลังจะหาทางออกนี้ กลับมีค่าน้อยกว่าเรื่องดาราเลิกกันหรือการกล่าวสุนทรพจน์ก่อนการเลือกตั้ง
ระหว่างที่เราติดตามตัวละครหลักในเรื่อง Don’t Look Up ไปเรื่อยๆ เราจะพบว่าคนที่มีอำนาจพร้อมช่วยเหลือกลับนิ่งเฉย และมองเห็นประโยชน์ส่วนตัวก่อนสิ่งอื่นใด มีการเชื่อมโยงเรื่องราวจนทำให้เกิดความเข้าใจผิด มีการผูกความเป็นความตายของคนหมู่มากไว้กับผลตอบแทนมหาศาล ซึ่งท้ายที่สุดการช่วยเหลือก็ยังคล้ายกับการแสดงละครเพื่อให้เกิดการยอมรับเท่านั้นเอง
เหตุผลที่ต้องหาเวลาดู Don’t Look Up ให้ได้ อย่างแรกคือเรื่องของความสนุกสนานเพลิดเพลิน Don’t Look Up เป็นหนังเสียดสีที่มีเรื่องน่าสลดใจอยู่มากก็จริง แต่ทุกจังหวะการดำเนินเรื่องนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของหนังตลก จึงสามารถให้แง่คิดไปพร้อมกับมุมมองที่ชวนให้ยิ้มมุมปากได้ ไม่ถึงกับเคร่งเครียดหรือต้องร้องไห้น้ำตาแตก แถมยังเป็นหนังที่ควรค่าแก่การดูพร้อมกันทั้งครอบครัว เพื่อถกประเด็นสำคัญต่างๆ ต่อเนื่องไปจากการดูหนังได้อีก
หากจะมองหาหนังสักเรื่องที่กระตุ้นให้เรากลับมาคิดถึงชีวิตของตัวเองและสังคมที่เราอาศัยอยู่ หนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว